ภูกระดึง​ (เลย)

บันทึกประสบการณ์ 3 วัน 2 คืน ณ 1,288 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง​
https://goo.gl/maps/Su54fMJPBKJ2CCNM7

สวัสดีครับ ห่างหายไปนานกับทริปเดินป่า หลังจากม่อนจองเมื่อปีที่แล้ว ผมก็แทบไม่ได้ไปทริปหนักๆ อีกเลย ผ่านมา 1 ปีได้มีการรวมตัวของกลุ่มเพื่อน เพื่อไปเดินขึ้นภูกระดึงกัน ผมรีบตอบรับในทันที เพราะคิดว่านอกจากจะได้ยินชื่อภูกระดึงนี้มานาน ได้ไปกับเพื่อนๆ ด้วย ก็น่าจะเป็นการ Reunion กับเพื่อนๆ ได้ดี จึงเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมาครับ (ยาวยาวหน่อยนะครับ นานๆ จะได้เที่ยวที 555+)

เตรียมตัวก่อนขึ้นภูกระดึง
ก่อนขึ้นภูกระดึงเราต้องประเมินสถานการณ์ และต้องติดต่อในหลายๆ ส่วน หลักๆ เลยคือเรื่องช่วงวันที่เราจะขึ้น เพราะส่งผลต่อที่พักด้านบนภูกระดึง ที่ถึงแม้จะมีเยอะ แต่ก็ควรจะจองล่วงหน้าก่อนเพื่อความสบายใจครับ

พวกเราเลือกวันได้ช่วงวันที่ 22-26 โดยจุดประสงค์หลักให้คร่อมช่วงวันที่ 23-25 ที่เป็นวันปิยะฯ (วันหยุดนักขัตฤกษ์) +เสาร์-อาทิตย์ พอดี ถึงแม้จะตรงกับช่วงหยุดยาว ซึ่งคาดการณ์ได้ไม่ยากว่าคนเยอะแน่ๆ แต่ด้วยภาระหน้าที่การงานแต่ละคนไม่แน่นอน สุดท้ายก็ได้ช่วงวันนี้ครับ

หลังจากได้ช่วงวันที่ ที่จะขึ้นภูกระดึงแล้ว สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยคือเรื่องที่พักด้านบน จะมีบริการเป็นแบบเต็นท์ และแบบบ้านพัก ซึ่งก็จะมีทั้งของอุทยานเอง และของเอกชน พวกผมได้ติดต่อเช้าเต็นท์กับทางอุทยาน + เช่าเครื่องนอน (ถุงนอน แผ่นรองนอน หมอน) กับทางอุทยาน โดยชำระค่าใช้จ่ายล่วงหน้าไปก่อน + ไปเช่าผ้าห่มเพิ่มที่หน้างานครับ | รายละเอียดการติดต่อที่พัก + เช่าเครื่องนอน สามารถทำรายการทั้งหมดได้ที่ http://nps.dnp.go.th/reservation.php ได้เลยครับ

เดินทางไปภูกระดึงยังไง
การเดินทางไปภูกระดึงเองสามารถไปได้หลายเส้นทางครับ ทั้งสายถึกที่ขับรถไปเอง หรือสายสบายนั่งรถโดยสารไป แต่ละสายก็จะมีข้อดี/ข้อเสียแตกต่างกันไปครับ อาทิเช่น

ขับรถไปเอง
ข้อดี: การขับรถไปเอง ก็เหมือนที่เราไปเที่ยว แล้วขับรถไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง ข้อดีคือเราเป็นคนกำหนดเวลาเอง มีความเป็นส่วนตัวสูง จะแวะพักที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ และถ้าไปกันหลายคน ช่วยกันหารค่าน้ำมันก็จะคุ้มกว่าครับ
ข้อเสีย: หลักๆ เลยก็คือความเหนื่อยล้าครับ ขาไปอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ขากลับ หลังจากลงจาภูกระดึงมาแล้ว ถ้าได้นอนพักด้านล่างก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าลงจากภูกระดึงแล้วขับกลับเลย ก็ค่อนข้างเสี่ยงกับอาการวูบหลับ หรือเหนื่อยล้าสะสมได้ครับ (อาจจะต้องเปลี่ยนๆ ช่วยกันขับครับ)

นั่งรถทัวร์ไป
ข้อดี: สบายครับ 555+ อาจจะเป็นจุดเด่นข้อใหญ่ ข้อเดียวที่เห็นภาพชัดที่สุด คือเราได้นอนครับ ทั้งขาไป และขากลับ เพราะบางคนเลือกเดินทางช่วงกลางคืนของวันทำงาน บางคนไม่ได้ลางาน ก็คือเลิกงานเสร็จ กลับบ้านไปเก็บของ แล้วออกมาขึ้นรถเลย ก็จะได้นอนบนรถครับ ขากลับหลังจากลงจาภูกระดึงมาแล้ว ก็อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็นอนหลับมาเลย ตื่นอีกทีก็ถึงที่หมายแล้วครับ
ข้อเสีย: สิ่งที่แลกมาด้วยความสบาย ก็คือเรื่องเวลา และค่าใช้จ่ายครับ เราอาจจะต้องขึ้นรถรอบดึก เพื่อให้มาถึงที่หมายในช่วงเช้า เพื่อจะได้ไม่ต้องลางานครับ แล้วก็ค่าใช้จ่ายของรถทัวร์ไป/กลับ รวมๆ กันก็พอๆ กับตั๋วเครื่องบินเที่ยวนึงได้เลยครับ (หมายเหตุ: ขึ้นอยู่กับประเภทของรถทัวร์ เช่น บขส. / VIP / VVIP ราคาก็จะไม่เท่ากัน เป็นต้นครับ)

พวกเราคุยกัน และแลกเปลี่ยนทัศนคติกันนิดหน่อย จากตอนแรกที่จะขับรถไป เผื่อว่าจะไปเชียงคานต่อด้วย แต่ด้วยความเหนื่อยล้า และคิดว่าการขับช่วงกลางคืน หลังจากลงจากภูกระดึงน่าจะไม่ค่อยไหวกัน เลยเปลี่ยนมาเดินทางด้วยรถทัวร์จาก SUNBUS กรุงเทพ-เลย เป็นแบบ VVIP ราคาตกเที่ยวละ 633 บาท ลงที่ผานกเค้า(ร้านเจ้กิม) เลยครับ รวมไป-กลับ ค่าโดยสารต่อคน จะอยู่ที่ 1266 บาทครับ

พอเราถึงร้านเจ้กิมแล้ว เราต้องนั่งรถสองแถวเพื่อเข้าไปที่อุทยานอีก ซึ่งก็จะมีรถมาจอดรออยู่เรื่อยๆ โดยจะให้ไปคันละ 10 คน ตกคนละ 30 บาท ใครมาเดี่ยว มาคู่ มากลุ่ม ก็จะมีคนจัดคิวให้ตรงนี้ ถ้ามากันหลายคน (กลุ่มผมไปกันรวมแล้ว 8 คน) ก็เหมาไปเลยครับ 300 บาท ขากลับก็จะมีรถสองแถวจอดรออยู่ตรงหน้าอุทยานเพื่อรับมาส่งที่ร้านเจ้กิมเหมือนเดิม (เป็นจุดขึ้นรถทัวร์หลักของหลายๆ เจ้า) รวมเบ็ดเสร็จทั้งหมดสำหรับค่าเดินทางก็จะอยู่ที่ 1266 + 600 = 1866 บาทครับ (กรณีเดินทางด้วยรถทัวร์)

เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
หลังจากนั่งรถสองแถวมาถึงปากทางเข้าอุทยานแล้ว เราจะต้องเสียค่าเข้าเป็นค่าดูแลสถานที่ คนละ 40 บาท และจะได้ตั๋วมาคนละ 1 ใบ รถสองแถวจะวนมาจอดให้ที่ด้านหน้าที่ทำการของอุทยาน เราต้องลงไปจัดการเรื่องดังนี้ครับ

1. คอนเฟิร์มเรื่องที่พักและเครื่องนอน ถ้าเราทำรายการออนไลน์มาแล้ว จ่ายเงินแล้วเรียบร้อย ก็ให้แสดงใบเสร็จให้กับทางเจ้าหน้าที่ครับ ไม่ต้องปริ๊นท์เป็นใบไปก็ได้ เปิดจากมือถือเอา แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็จะปริ๊นท์เป็นใบเสร็จให้เรา เพื่อให้เราไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ด้านบนภูกระดึง เพื่อติดต่อเข้าเต็นท์(ของอุทยาน) และรับเครื่องนอนครับ

2. ติดต่อเรื่องประกัน ทางอุทยานจะให้เราเสียค่าประกันคนละ 10 บาท กรณีเกิดอุบัติเหตุด้านบน จะครอบคลุมค่าเสียหายอยู่ที่ 100,000 บาทครับ

3. จ้างลูกหาบ สำหรับคนอยากแบ่งเบาภาระตัวเอง แบกของสำคัญเท่าที่จำเป็น ก็สามารถจ้างลูกหาบ เพื่อแบกสัมภาระเราขึ้นไปด้านบนได้ครับ ก็ไปติดต่อขอรับบัตรคิว และชั่งน้ำหนัก ค่าบริการจะอยู่ที่ 30 บาท/กก./เที่ยว เช่น กระเป๋าหลักผมอยู่ที่ 7 กก. ก็จะเป็น 7 x 30 = 210 บาทครับ

4. ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เช่น เข้าห้องน้ำ กินข้าว แต่งองค์ทรงเครื่องให้เรียบร้อย เพราะพอเราก้าวขาขึ้นภูกระดึงไป ความสะดวกสบายจะค่อยๆ ลดลง ตั้งแต่น้ำ-ไฟ อาหารการกิน ถึงแม้ว่าด้านบนจะมีอาหารขาย แต่ราคาก็จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วแต่ความสูงของแต่ละขั้น ด้านล่างข้าวกะเพราไข่ดาวอาจจะอยู่ที่ 35-50 บาท แต่ด้านบนข้าวราดแกง 2 อย่างก็ปาเข้าไป 70-80 แล้วครับ แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะทางร้านเค้าก็ต้องแบกขึ้นไปเหมือนกัน ใจเค้าใจเราครับ ฉะนั้นแล้ว อะไรแบ่งเบาได้ อะไรเข้าได้ กินได้ก่อน ควรทำตั้งแต่ก่อนขึ้นครับ

เริ่มเดินขึ้นภูกระดึง
พล่ามมาเยอะแล้ว ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้ คุณเก่งมากครับ ผมเขียนเองยังรู้สึกขี้เกียจอ่านเลย 555+ แต่ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านมาถึงจุดนี้ครับ ส่วนหลังจากนี้ผมขอให้ภาพเล่าเรื่องบรรยากาศทั้งหมด หรือถ้ามีรายละเอียดอะไรที่ผมอยากเล่าเพิ่มเติมผมจะเขียนอธิบายไว้ที่ภาพนะครับ

หลังจากลงจากภูกระดึงแล้ว
ตีนแตกครับ 555+ เหนื่อยชิบหาย คือพอไม่ได้เดินป่ามานาน แล้วเราก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่ นน.ตัวก็ค่อนข้างเยอะ เรียกว่าเดินบดขาตัวเองไปเลยครับ 555+ เดินขึ้นว่าเหนื่อยแล้ว เดินลงยิ่งซ้ำเข้าไปใหญ่ เพราะเข่ารับภาระหนักมาก ในการประคองตัวเองไม่ให้ร่วง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็สามารถลงมาถึงข้างล่าง และกลับมาเล่าให้ทุกคนฟังได้โดยสวัสดิภาพครับ 555+

สรุปภูกระดึงในความคิดของผม
ทุกคะแนนเป็นเพียงการประเมินจากตัวผมเองคนเดียวนะครับ
ระยะทาง: ★★★★✰
ความยาก: ★★✰✰✰
ความงาม: ★★★✰✰
สิ่งอำนวย: ★★★★★ (มีน้ำอุ่น และหมูกระทะครับ 555+)

สำหรับภูกระดึงนี้ เป็นหนึ่งในหลายๆ ที่ ที่สายเดินป่าทุกคนต้องมารับน้องกัน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเดินง่าย ไม่ยาก แถมด้านบนก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งไฟฟ้า-ห้องน้ำ-อาหาร มันเลยทำให้ระยะทางที่ดูไกล พอหักลบกับสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว เลยดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่สำหรับมือใหม่ และผมค่อนข้างโชคดีด้วย ที่วันที่ เดินขึ้น-อยู่บนนั้น-เดินลง ฟ้าเปิด อากาศแจ่มใสทุกวันเลย เพราะก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน + หลังจากกลับมา พายุก็เข้า หมอกลงจัด ฟ้าปิด ก็ถือว่าเป็นโชคดีของทริปนี้ครับ

จุดด่างพร้อยเพียงจุดเดียวของทริปภูกระดึงของผมคือ การที่ผมไม่ได้ไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก เพราะเดินไปไม่ไหว 555+ แฟนผมแนะนำว่าให้ปั่นจักรยานไปนะ เพราะถ้าเดินมันไกลมาก (นับจากหมากลูดไป/กลับ ก็ 10 กม.+ เลย) ผมเลยไปหยุดอยู่ที่ผาเหยียบเมฆ และดูพระอาทิตย์ตกดินแทน อาจจะไม่สวยเท่าของเพื่อนๆ ที่เดินไปถึงกัน ถือเป็น bug เดียวของทริปนี้จริงๆ คับ 555+

สำหรับมือใหม่ หรือใครที่ยังไม่เคยไปภูกระดึงนะคับ โดยรวมไม่ยากครับ เดินง่าย เดินสนุก มีของกินปลอบประโลมให้ตลอดทาง ด้านบนบางทีอาหารกินดีอยู่ดีกว่าข้างล่างอีก 555+ สำหรับคุณผู้หญิง ด้านบนมีไฟฟ้าใช้ ห้องน้ำสะอาด หมูกระทะก็มี ส้มตำคือเลิศมาก อยากให้ไปลองกัน

https://goo.gl/maps/Su54fMJPBKJ2CCNM7
📌 ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง เลย
🚗 มีที่จอดรถ / มีรถสองแถวรับ/ส่งตลอด
📞 042-810833