สวัสดีครับ ห่างหายกันไปนานกับการลงคอนเทนต์ใหม่ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 และการล็อกดาวน์ในหลายๆ พื้นที่ เที่ยวในโลกความเป็นจริงคงยาก ก็คงต้อง #เที่ยวทิพย์ กันไปก่อน
สำหรับ #เที่ยวทิพย์ ทริปแรกนี้ผมขอเสนอ “ญี่ปุ่นหน้าร้อน” ซึ่งเป็นทริปที่สุดมาก ไม่ได้ไปเพื่อช้อปปิ้ง กินหรู อยู่สบาย เหมือนที่ผ่านๆ มา แต่เป็นทริปเดินป่า ขึ้นเขา กลับดึก ตื่นโคตรเช้า และเปิดหูเปิดตาอะไรหลายอย่างมาก เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ และภาพบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ มาเล่าต่อให้กับเพื่อนๆ ทุกคนครับ
Master-plan ญี่ปุ่นหน้าร้อน
6 โลเคชั่น 5 วัน 4 คืน
DAY1 (Tokyo › Odaiba › Yamanashi)
— Teamlab Borderless
DAY2-3 (Yamanashi)
— Fuji-san FINISHER!
DAY4 (Yamanashi › Fujiyoshida › Tokyo › Ueno)
— Chureito Pagoda
— Isomaru Suisan
DAY5 (Tokyo › Shibuya › Minato City)
— Meiji Shrine
— Tokyo Tower
(Day1) TeamLab Borderless
チームラボボーダレス
📌 Digital Art Exhibition & Museum
teamLab Borderless พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองโอไดบะ, โตเกียว ด้านในประกอบด้วยสุดยอดงานศิลปะกว่า 50 ชิ้น ในพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น Section ใหญ่ๆ ได้ 5 แบบ ภายใต้แนวคิด “โลก 5 ใบ” ประกอบด้วย
— Borderless World (โลกที่ไม่มีเส้นกั้นระหว่างงานศิลปะ)
— Athletics Forest (ป่าของการเคลื่อนไหวอย่างสร้างสรรค์)
— Future Park (เรียนรู้โลกอนาคต *เหมาะสำหรับเด็ก)
— Forest of Lamps (ป่าแห่งโคมไฟที่แสนตระการตา)
— EN TEA HOUSE (งานศิลปะชาที่ดื่มได้)
เมื่อเข้าไปแล้วผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก เพราะเอาจริงๆ เรารู้จักเทคนิค Projector Wrapping มาเนืองๆ อยู่แล้ว และเข้าใจการทำงานของ Lighting ต่างๆ แต่ไม่คิดว่าจะสามารถรังสรรค์ออกมาเป็นงานศิลปะที่เรารู้สึกประทับใจได้ขนาดนี้ เรียกว่าถ่ายรูปกันสนุกเลย
มีหลายโซนที่เราสามารถ Interact กับผลงานศิลปะนั้นๆ ได้ด้วย เช่น สามารถควบคุมการแสดงผลของไฟ ผ่าน App ในมือถือ / Projecter Wrapping Interactive ผ่านกล้องที่ Detect ร่างกายของเรา หรือด้านบนที่เป็นโซนสำหรับเด็ก มีเครื่องเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการ ให้โยน ให้กระโดด ให้วาด/เขียน สนุกสนานมากๆ ครับ
ตรงกลางของอาคารจะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ที่เป็นเหมือนน้ำตกที่น่าจะเป็นภาพจำที่ชัดที่สุดของที่นี่ ซึ่งเราสามารถลงไปข้างล่างเพื่อถ่ายรูปใกล้ๆ ได้ แต่ถ้าอยากเห็นน้ำตกแบบเต็มๆ เฟรม ต้องอยู่ระหว่างชั้นลอย แล้วถ่ายลงไปครับ
และห้องที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่สุดของ teamLab ที่ใช้เวลาต่อแถวเกือบ 40 นาที! นั่นคือ Forest of Lamps (ป่าแห่งโคมไฟ) เป็นห้องสี่เหลี่ยม 4 ด้าน ที่ด้านในห้องอัดแน่นไปด้วยโคมไฟ ที่จะหมุนเวียน เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ คิวด้านนอกห้องนี่วนกันเหมือนหางงูเลย ทางเจ้าหน้าที่จะจัดคิวให้เราเดินเข้าไปทีละ 15 คน โดยแต่ละรอบจะให้เวลารอบละ 3 นาที สำหรับการถ่ายรูป เรียกว่าเป็น 3 นาทีที่ฟินมากๆ ครับ
บริเวณทางเข้ามีบริการรับฝากกระเป๋า ทั้งขนาดเล็กแบบพกพา ไปจนถึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ก็มี มีค่ามัดจำ JPY¥100/คน (จะได้คืนเมื่อนำสัมภาระออก) สำหรับใครที่แวะมาเยี่ยมชม แนะนำว่าให้เผื่อเวลาไว้อย่างต่ำ 2 ชั่วโมงในการชม ยิ่งคนชอบถ่ายรูปนี่ คิดว่าสามารถอยู่ได้ทั้งวันเลยครับ
อัปเดตล่าสุดปี 2021: ทางพิพิธภัณฑ์ประกาศว่า teamLab Borderless จะปิดตัวลงในเดือน ส.ค. 2022 นี้ เนื่องจากพิษเศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในญี่ปุ่น แต่ทางพิพิธภัณฑ์ แจ้งให้ทราบว่า จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในปี 2023 สถานที่คือใจกลางมืองโตเกียวเช่นเดิม (รอประกาศอย่างเป็นทางการจากทางพิพิธภัณฑ์ในเวลาต่อไป) — ขอบคุณข้อมูลจาก: The Matter
รายละเอียดสถานที่
https://goo.gl/maps/mzUkWmN89DRSF9PM7
📌 Odaiba, Tokyo, Japan
⏰ 09.00 – 20.00 น. (เปิดทุกวัน)
💸 อายุ 4-14 ปี JPY¥1,000/คน
💸 อายุ 15 ปีขึ้นไป JPY¥3,200/คน
📸 รีวิว TeamLab Borderless ฉบับเต็ม : https://bit.ly/3k0RSyp
(Day2-3) Fuji-san FINISHER!
富士登山
📌 ภารกิจพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ (2 วัน 1 คืน)
วันที่ 2 นี้ เราจะพาไปแอดเวนเจอร์กันสักหน่อย กับบันทึกประสบการณ์ 2 วัน 1 คืน ณ ความสูง 3,776 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล กับภารกิจพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ถือเป็นอัลบั้มที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงกายแรงใจเป็นอย่างมาก แต่แลกกับได้ภาพ และคอนเทนต์แค่นี้ สบายมาก!
ทริปนี้เราต้องเตรียมตัวมาจากที่ไทยก่อนนะครับ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะมา Walk-in อยากขึ้นเขาเล่นๆ แล้วใครจะขึ้นได้นะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม และ Lifestyle การขึ้นเขาของแต่ละคนด้วยครับ ซึ่งถ้าอยากให้เป็นทริปที่ Enjoyable แนะนำว่า 2 วัน 1 คืน (นอนพักบนเขา 1 คืน) แต่ถ้าเป็นสาย Sprint (รีบขึ้น รีบลง) สามารถขึ้นและลงได้ภายใน 1 วันครับ
สำหรับพวกผมจัดทริปไว้สำหรับภารกิจนี้คือ 2 วัน 1 คืน ฉะนั้นต้องมีการจองที่พัก และชำระค่าใช้จ่ายมาให้เรียบร้อยก่อน (จองได้ตั้งแต่ที่ไทย) รูปแบบการเดินคือ เราจะ Start ตั้งแต่ชั้น 5th และค่อยๆ เดินไต่ระดับความสูงขึ้นไปจนถึงชั้น 8th และนอนพัก 1 คืน และตื่นตอนเช้าตรู่ (~03.00 น.) เพื่อเดินขึ้นยอดเขา Summit ที่ชั้น 10th ให้ทันพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเช้าครับ
เส้นทางที่เราเลือกเดินคือ Yoshida Route ตั้งตามชื่อคนที่พิชิตยอดเขาได้เป็นคนแรกกับเส้นทางนี้ ความยากของเส้นทาง 2/5 เป็นเส้นทางยอดนิยม ไม่ชันมาก มีจุดพักระหว่างทาง ทั้งร้านขายของ และห้องน้ำค่อนข้างเยอะครับ
สำหรับสายแบก แนะนำว่าให้พกไปเฉพาะของใช้ส่วนตัว และของที่จำเป็นจริงๆ นะคับ เพราะระหว่างทางทุกๆ ชั้น จะมีร้านขายของชำของคนในพื้นที่ คอยบริการตามจุดแวะพัก ซึ่งยิ่งสูง ก็จะยิ่งราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ (คล้ายๆ อช.ภูกระดึง จ.เลย ที่บ้านเราเลย) ผมเองฝากท้องไปกับมาม่าคัพ และน้ำจากร้านแบบนี้ไปหลายขวดเลย 555+
ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าร้อน แต่อากาศ ณ ภูเขาไฟฟูจิตั้งแต่ชั้น 5th ขึ้นไป ไม่ร้อนเลยครับ อากาศเย็นสบาย ฟ้าเปิดเห็นก้อนเมฆสวยงาม รวมถึงมีเมฆหมอก และฝนตกปรอยๆ บ้างประปราย เพราะเรากำลังเดินอยู่ระดับเดียวกับเมฆนั่นเอง! — แนะนำเตรียมเสื้อกันฝนบางๆ พับเก็บง่ายไปด้วยก็ดีนะครับ บางทีเดินๆ อยู่ฝนตกไม่รู้ตัว เสื้อผ้าเปียกระวังจะเป็นหวัดเอาได้ครับ
เราเริ่มเดินจากชั้น 5th เมื่อช่วง 11.00 น. ถึงชั้น 8th ที่เราจองที่พักไว้ก็ปาเข้าไปเกือบ 19.00 น. เข้าไปแล้ว หลังจากถึงชั้นที่เป็นเหมือนจุด Checkpoint เราก็ติดต่อขอเข้าพักที่เราจองไว้ ทางที่พักจะมีอาหารให้เรา 1 มื้อเป็นอาหาร เป็นการต้อนรับ กินเสร็จแล้ว ก็หลับเป็นตายเลยครับ หมดแรงสุดๆ
วาร์ปมาอีกที 03.00 น. ของวันที่ 3 ตามที่วางแผนไว้ เราก็เริ่มเดินขึ้นยอดเขา Summit ชั้น 10th กันครับ เป็น 2 ชั้นที่มองขึ้นไปเห็นยอดอยู่กลายๆ แต่ต้องค่อยๆ ขึ้น เพราะมืด และการจราจรค่อนข้างหนาแน่น ซึ่งจุดนี้ก็จะมีสายซิ่ง ที่ขึ้นเขามาช่วงเย็น และเดินขึ้นรวดเดียวแบบไม่ได้พัก เพื่อให้ทันขึ้นยอดเขาในช่วงเช้าก็มีครับ (พวกเราเป็นมือใหม่ ไม่ไหวจริงๆ 555+)
และถึงเรียบร้อยครับ ยอดภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เอาจริงๆ นะ คิดมาตลอดว่าปากปล่องภูเขาไฟฟูจิมันน่าจะยังไม่ดับ แต่ภาพที่เห็นคือเป็นเหมือนลานดินเรียบๆ 555+ แต่ไม่เป็นไร เราฟินกับระหว่างทางไปแล้ว ถึงยอดก็ชื่นชมกับตัวเองว่าเราสามารถทำได้ครับ
รายละเอียดสถานที่
https://goo.gl/maps/AV9o4Z3nKdWPnisd6
📌 Mt.Fuji 5th Sta., Kamiyoshida, Fujiyoshida, Yamanashi, Japan
⏰ ช่วงเปิดให้ขึ้นเขา: 1 ก.ค. – 11 ก.ย. ของทุกปี (เปิดทุกวัน 24 ชม.)
💸 ค่าใช้จ่าย (เฉพาะที่เกี่ยวกับการปีนเขาเท่านั้น)
— ค่ารถจากด้านล่าง ขึ้นมาชั้น 5th JPY¥2,300/คน (ไป/กลับ)
— ค่าที่พักชั้น 8th JPY¥8500/คน
— ค่ากินจิปาฐะระหว่างทาง ~แล้วแต่คน
📸 รีวิว Fuji-san Finisher! ฉบับเต็ม : https://bit.ly/3g9u22o
(Day4) Chureito Pagoda
忠霊塔
📌 แลนด์มาร์กสำคัญของเมือง Fujiyoshida เจดีย์ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ
หลังจากลงจากเขาเมื่อวาน ถึงที่พักได้อาบน้ำแล้ว ก็หลับเป็นตายไปเลยครับ 555+ ฟื้นมาอีกทีก็คือเข้าวันที่ 4 แล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก สำหรับวันนี้อีเว้นท์เราเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่เลยครับ เราจะไปเยี่ยมชมอีก 1 แลนด์มาร์กสำคัญ ที่คนที่มาเมืองYamanashi จะพลาดไม่ได้ นั่นคือเจดีย์แดง (Chureto Pagoda) นั่นเองครับ
เจดีย์แดงนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์วีรชนของคนญี่ปุ่น สิ่งที่เป็นไฮไลท์สำคัญ คือความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่นช่วงซากุระบาน บริเวณนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นโทนสีชมพู และฉากหลังเป็นวิวภูเขาไฟฟูจิครับ
แอบน่าเสียดายนิดหน่อย เพราะเรามาในช่วงเช้า ทำให้อากาศค่อนข้างไม่เอื้ออำนวย เมฆค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่ค่อยเห็นภูเขาไฟฟูจิสักเท่าไหร่ แต่ขอเก็บภาพมุมประทับใจอื่นๆ มาฝากละกันนะครับ ส่วนใครที่จะตามมาหลังจากนี้ หรือมีแพลนว่าจะมาในอนาคต ขอให้ฟ้าเปิด อากาศดี ได้ภาพ พร้อมความทรงจำดีๆ กลับมานะครับ
รายละเอียดสถานที่
https://goo.gl/maps/FFktDdQHw3UfuEgg8
📌 Fujiyoshida, Yamanashi, Japan
⏰ เปิดทุกวัน 24 ชม.
📸 รีวิว Chureito Pagoda ฉบับเต็ม : https://bit.ly/3k5jEtn
(Day4) Isomaru Suisan
磯丸水産
📌 ร้านซีฟู๊ดอิซากะยะ เปิด 24 ชม.
ช่วงสายๆ ของวันที่ 4 หลังจากเก็บของจากที่พัก Check-out ออกเรียบร้อย ระหว่างรอขึ้นรถบัสกลับเข้าเมือง เราวางแผนกันว่าหลังจาก Check-in เข้าที่พักที่โตเกียวเสร็จ เราจะไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันก่อน และแยกย้ายกันไป Free-day ครับ พวกเราสุมหัวกันเลือกร้านอยู่สักพัก ก่อนจะตกลงปลงใจพร้อมกันเลือกร้านนี้ เพราะเห็นรีวิวหลายคนเชียร์มาก ประมาณว่าใครมาญี่ปุ่นต้องแวะไปกินสักครั้ง กับของขึ้นชื่อ “มันปู!” ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงร้าน Isomaru Suisan นั่นเอง
ร้าน Isomaru Suisan เป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารประเภท Izakaya (ปิ้ง-ย่าง-กิน-ดื่ม แบบมีแอลกอฮอล์) ซึ่งกิมมิกของร้านนี้ คือเป็น Seafood-Izakaya ที่เปิด 24 ชม. ซึ่งวัตถุดิบก็คือสดๆ ที่ตู้หน้าร้านนั่นเลยครับ มีครบทั้งปลาหมึก กุ้ง หอย และ Signature ที่เป็นของขึ้นชื่อของร้านนี้ นั่นคือมันปูครับ คัดมาเน้นๆ แบบเต็มกระดองเลย พวกผมมาแล้วก็ไม่พลาดที่จะสั่ง จัดมาเลยคนละ 1!
ทางร้านยังมีอาหารให้เลือกอีกหลากหลาย ทั้งเป็นแบบด้ง(ข้าวหน้าต่างๆ) หรือเป็น Seafood ที่เสิร์ฟแบบ A-la-cart รสชาติอาหารค่อนข้างดี กินพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ ในบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยหมู่เพื่อน พร้อมเสียงหัวเราะ บอกเลยว่ามันดีงามมากๆ ครับ
อัปเดตล่าสุดปี 2021: ร้านปิดบริการชั่วคราว เนื่องจากพิษเศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในญี่ปุ่น
รายละเอียดสถานที่
https://goo.gl/maps/nhMRYphN2j8MxjLf8
📌 Taito City, Ueno, Tokyo, Japan
(Day5) Meiji Shrine
明治神宮
📌 ศาลเจ้าประวัติศาสตร์กลางป่าขนาดใหญ่ ใจกลางชิบุยา, โตเกียว
เดินทางมาถึงวันที่ 5 วันสุดท้ายแล้ว เร็วมาก! เช้านี้ขอตามรอยรุ่นพี่ร่วมทริป เห็นว่าเราชอบต้นไม้ ชอบอะไรเขียวๆ เลยแนะนำศาลเจ้าเมจิ เรียกได้ว่า “ป่าใจกลางเมืองโตเกียว” ที่แม้ว่าด้านนอกจะวุ่นวายเพียงใด แต่พอเดินเข้าไป ก็เหมือนหลุดไปอีกโลกนึงเลยทีเดียว
การเดินทางไปศาลเจ้าเมจิค่อนข้างง่าย เพราะอยู่ด้านบนของสถานี Meiji Station เลย ขึ้นมาจากสถานี เดินข้ามถนนหน่อยนึง ก็ถึงแล้ว ด้านหน้าทางเข้า เราจะเห็นเสาโทริอิอันโคตรใหญ่ ใหญ่แบบใหญ่มาก เป็นสัญลักษณ์ว่าเรามาถึงแล้ว
เดินผ่านเสามาแล้วก็จะพบทางเดินทอดยาวเข้าไปในป่าอีก น่าจะลึกร่วมๆ 1-2 กม. ได้เลยแหละ ด้านในก็จะเจอลานกว้าง และศาลเจ้า ที่คนทั่วทุกสารทิศมาร่วมกันทำบุญ หรือบางคนก็แค่มาเดินเล่น ดื่มด่ำกับธรรมชาติอะไรงี้ ส่วนตัวผมชอบแนวป่าๆ อยู่แล้ว มาที่นี่คือฟินมาก ใครมีโอกาสแวะเวียนมา ขอแนะนำเลยครับ คุ้มค่าา
รายละเอียดสถานที่
https://goo.gl/maps/6EGPwPbXJUA1JmE98
📌 Yoyogikamizonocho, Shibuya City, Tokyo, Japan
⏰ 05.00 – 18.00 น. (เปิดทุกวัน)
📸 รีวิว Meiji Shrine ฉบับเต็ม : https://bit.ly/3g8FyL5
(Day5) Tokyo Tower
東京タワー
📌 Symbolic of Tokyo
และก็มาถึงโลเคชั่นสุดท้ายของทริปนี้ครับ ปิดทริปทั้งที เอาแบบอลังการๆ หน่อยละกัน เย็นนี้พามาชมความงามของมหานครโตเกียวแบบมุมสูงกันครับ ที่ Tokyo Tower จากที่หาข้อมูลมาเห็นว่า มีความสูงใกล้เคียงกับหอไอเฟล ฝรั่งเศสเลยนะเออ
วิวด้านบนเราสามารถมอง มหานครโตเกียว ได้แบบ 360 องศา ยาวตั้งแต่ฟูจิ ไปจนถึงอ่าวโตเกียวได้เลย ผมขอแนะนำให้มาช่วงเย็น ประมาณ 4-5 โมง เพื่อมารอเก็บภาพ Twilight-Time ที่นี่ รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ ขอดื่มด่ำกับวันสุดท้ายด้วยภาพนี้ เป็นของขวัญส่งท้าย #เที่ยวทิพย์ ญี่ปุ่นหน้าร้อนครั้งนี้ครับ
รายละเอียดสถานที่
https://goo.gl/maps/24JYespciWwQEUqj9
📌 Shibakoen, Minato City, Tokyo, Japan
⏰ 09.00 – 22.00 น. (เปิดทุกวัน)
💸 JPY¥1,200/คน
💸 จองตั๋วออนไลน์ผ่าน KLOOK ได้เลย!
(ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันก่อนมา)
📸 รีวิว Tokyo Tower ฉบับเต็ม : https://bit.ly/3mbWvrX
สุดท้ายนี้ ขอสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นโดยเร็ว เพื่อที่เราจะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ได้อีกครั้ง ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม พบกันใหม่ทริปหน้าครับ /สวัสดีครับ