ใครที่กำลังวางแผนท่องเที่ยงช่วงสุดสัปดาห์นี้ หรือมีแพลนจะมาเที่ยว จ.กาญจนบุรี ผมขอแนะนำหนึ่งร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ ที่ผมคิดว่าสามารถตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะมากับครอบครัว, กลุ่มเพื่อน, แฟน หรือมาคนเดียวก็ได้ ร้านนี้มีครบทั้งอาหาร/เค้ก-เบเกอรี่/ขนม และเครื่องดื่ม ด้านกาแฟจะพิเศษขึ้นอีกนิด เพราะเมื่อต้นปีทางร้านได้เปิดโรงคั่วกาแฟขึ้นเฉพาะ รองรับคอกาแฟหรือมือใหม่ทุกคนให้ไปลิ้มลองกัน แถมร้านนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกาญจนบุรีมาก เพียงแค่ 8 กม. จากตัวเมืองเท่านั้น หลายคนอาจจะรู้จักร้านนี้แล้ว ส่วนใครที่ยังไม่รู้จักวันนี้ผมจะพามาเที่ยวกันที่นี่ The Village Farm to Cafe คาเฟ่ในเครือร้านอาหาร คีรีมันตรา จ.กาญจนบุรี ครับ
ใครมาเที่ยวกาญจนบุรี ขับรถผ่านทางหลวงสายเอเชียเส้น 123 (ถ.กาญจนบุรี-ไทรโยค) คงจะเคยเห็นร้านนี้ผ่านตาบ้างเวลาขับผ่านถนนเส้นนี้ ตัวร้านขนาดใหญ่-ใหญ่มากๆ มองผ่านๆ คงเข้าใจว่าเป็นโรงแรม หรือรีสอร์ทอะไรสักอย่าง แต่ที่นี่คือร้านอาหาร คีรีมันตรา และข้างๆ เป็นโซนคาเฟ่ที่ถึงแม้ The Village จะได้ชื่อว่าเป็นคาเฟ่ของร้านอาหาร แต่ด้วยขนาดของตัวร้านก็ไม่ได้รู้สึกเป็นรอง หรือร้านเล็กๆ เลย ตัวคาเฟ่คือร้านใหญ่มาก โอ่โถงกันตั้งแต่ทางเข้า ด้านหน้าจัดเต็มเท่าไหร่ ด้านในจัดเต็มอลังการยิ่งกว่าครับ
ความอลังการเมื่อเดินเข้ามาคือ การคุมโทนภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ-ที่นั่ง, เคาน์เตอร์บาร์รับออเดอร์, ผนังไม้ระแนง, ฝาไม้อัด รวมไปถึงต้นไม้น้อย-ใหญ่ ที่แฝงตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ภายในร้าน ภาพรวมจะเน้นไปทางโทนอุ่นๆ ภายในร้านกว้างขวาง ที่นั่งก็เยอะมากๆ แบ่งได้หลายโซนทั้งแบบ Indoor / Outdoor เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาเที่ยวพักรถ กินข้าวจากคีรีมันตราเสร็จ เดินมากินขนม-จิบกาแฟกันต่อที่ The Village ครับ
ใกล้กับทางออกของร้านจะมีผนังฝั่งหนึ่งขายเป็นของฝาก/ของที่ระลึก เป็นขนมอบกรอบสูตรพิเศษจากทางร้าน เช่น ป็อปคอร์นรสชีส, คาราเมล, ช็อคโกแลต คุกกี้บราวนี้, บราวนี้อบกรอบ ฯลฯ รสชาติอร่อยใช้ได้เลยครับ (ผมลองซื้อกลับมาฝากที่บ้าน หลายคนบอกว่าดีครับ) แต่แนะนำให้ดูวันหมดอายุที่ใต้กล่องให้ดีๆ นะคับ เพื่อความสดใหม่และคุณภาพที่ดีที่สุด อายุของสินค้าเลยค่อนข้างสั้น ฉะนั้นถ้าใครจะซื้อของฝากแนะนำคำนวณเวลาเดินทาง-เวลาจนกว่าของฝากจะไปถึงมือผู้รับให้ดีๆ นะครับ
แวะมาดูเมนูที่ร้านกันหน่อย แม้จะเป็นคาเฟ่ แต่ของกินไม่ได้จำกัดแค่ขนม/เครืองดื่ม ด้านอาหารที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กันสไตล์อาหารจะเน้นไปทางไทยฟิวชั่น ร้านเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ผ่านฝีมือการปรุงด้วยเชฟจากร้านคีรีมันตราฉะนั้นมั่นใจในรสชาติได้เลย ส่วนเครื่องดื่ม/ขนม เรียกได้ว่าที่นี่ครบถ้วนตอบโจทย์ได้ทั้งสาย Coffee / Non-Coffee ครบทั้งร้อน-เย็น-ปั่น ด้านกาแฟจะพิเศษหน่อยเพราะที่ร้านเพิ่งเปิดโรงคั่วส่วนตัว The Village Roaster เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาด้วยครับ
เดินต่อมาด้านในเป็นโซนต่อเนื่องกัน มุมนี้จะเน้นไปทางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นมุมเล็กๆ จิบสังสรรค์กันได้เบาๆ เครื่องดื่มที่มีจำหน่ายจะเน้นไปทางเบียร์เป็นส่วนมาก มีหลากหลายมากทั้งเบียร์ไทย / เบียร์ต่างชาติ ไปถึง Whisky หรือใครที่นำไวน์มาเอง อยากทานที่ร้าน ร้านก็คิดค่าเปิดเพียง 200 บาทเท่านั้นครับ แต่เนื่องจากพวกเราขับรถกันมาเองจึงขอผ่านโซนนี้ไปก่อนแล้วกันนะครับ ฮ่าๆ
เดินมาถึงอาคารด้านในสุด แต่เป็นน้องใหม่ของ The Village นั่นคือ The Village Roaster โรงคั่วกาแฟขนาดย่อมๆ ที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นปีที่ 65 ที่ผ่านมาครับ สำหรับคอกาแฟไม่ว่าจะระดับทาน Hobby / Serious ที่นี่มีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายมาก ถ้าไม่แน่ใจสามารถถามจากพี่พนักงานได้เลย พี่เขาจะแนะนำเป็นรสสัมผัสแบบเข้าใจง่าย เช่น Fruity / Nutty / Chocolate เป็นต้นครับ
เดินวนกลับเข้าร้านเพื่อเดินต่อไปที่ทางออกด้านหลัง ฝั่ง Outdoor ข้างนอกนี้ก็มีมุมที่นั่งอีกเยอะมากๆ ผมคิดว่าถ้าเทียบกับพื้นที่ลานจอดรถข้างหน้าแล้ว ภายในร้านน่าจะรองรับแขกได้ประมาณ 200-300 คน+ ได้เลยครับ
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่มาร้านอาหารคีรีมันตรา / The Village Cafe คือลานกว้างด้านหลังร้านครับ คือถ้าแดดร่มสักนิดได้ฟีลเหมือนปากช่อง/เขาใหญ่เลยนะเอาจริงๆ ลานกว้างนี้ทางร้านจะใช้สำหรับจัดงานตามเทศกาลต่างๆ เช่น ที่จัดอยู่ปัจจุบันจะเป็นงาน “ย้อนวันวาน เสน่ห์กาญจน์ – บ้านเรา” ดูพลุ-ฟังเพลง-เล่นเกมส์-เดินเที่ยวงานวัด ธีมวันสงกรานต์ครับ – (อัปเดต 12-17 เม.ย. 65) / ด้านในสุดของลานกว้างจะมีทะเลสาบและเป็นภูเขาล้อมรอบ จะพูดว่าหลังร้านนี้มีทะเลสาบและภูเขาส่วนตัวก็ดูไม่เกินจริงเลยครับ
พื้นที่โซนด้านในสุดของ The Village ปัจจุบันจัดแสดงเป็นทุ่งดอกมาร์กาเร็ต, ฟาร์มต้นกระบองเพชร – (อัปเดต 12 เม.ย. 65) ด้านในจะมีจุดถ่ายรูปอีกพอสมควร ตรงนี้ต้องเสียค่าเข้า 80 บาท/คน ผมไม่ได้เข้าเพราะเวลาไม่พอ แต่ถ้าใครแวะมาเที่ยวที่นี่ ถ้ามีเวลามากพอแนะนำเลยครับ ถ้าไม่ติดว่าต้องรีบกลับบ้านผมว่าผมอยู่ยาวแน่ๆ
ปิดท้ายด้วยโซนป่าไผ่ให้ฟีลเหมือนอยู่ญี่ปุ่นเดินกลับไปที่ฝั่งคาเฟ่ บางช่วงเทศกาลจะมีตั้งโต๊ะขายของริมทางด้วยนะ เหมือนเป็นตลาดนัดย่อมๆ สิ่งที่ขายก็เป็นผลผลิตจากภายในร้านนี้แหละ ถึงได้ชื่อร้านว่า Farm to Cafe เพราะพื้นที่และสิ่งที่ร้านทำบนพื้นที่แห่งนี้เยอะ และหลากหลายมากๆ ส่วนตัวผมมาที่ร้านนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ก็ยังประทับใจทุกครั้งที่ได้แวะมา หวังว่าหยุดยาวครั้งนี้ หรือครั้งหน้าถ้าคุณได้มีโอกาสมาเที่ยวกาญจนบุรีและได้แวะมาเที่ยวที่ The Village Farm to Cafe จะรู้สึกประทับใจเหมือนผมนะครับ
รายละเอียดของร้าน
https://goo.gl/maps/RVLV4Ei6oF2QRktJ9
📌 ถ.แสงชูโต ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
⏰ 09.00 – 21.00 น. (จันทร์-ศุกร์)
⏰ 08.00 – 21.00 น. (เสาร์-อาทิตย์)
🚗 มีที่จอดรถ
📞 034 540 599
📲 Facebook: The Village Farm To Cafe’
💸 จ่ายผ่าน Mobile Banking ได้ (ไม่มีขั้นต่ำ)
