สวัสดีครับ, ถ้าหากขอสวัสดีปีใหม่ 2565 ตอนนี้จะถือว่าช้าเกินไปไหมนะ ฮ่าๆ แต่ไหนๆ ก็เพิ่งผ่านช่วงสงกรานต์มาพอดี เลยขออนุญาตสวัสดีปีใหม่ไทยรวบยอดไปเลยแล้วกันครับ สำหรับทริปเที่ยวแบบ ทรมานบันเทิง ทริปแรกของปีนี้ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยทริปที่ขึ้นชื่อว่าจองยากที่สุดทริปหนึ่งในประเทศ กับทริป ลำคลองงู อช.ลำคลองงู จ.กาญจนบุรี ทริปนี้แม้ระยะทางที่เดินเท้าไม่ค่อยไกลมาก (แค่ 3 กม. นิดๆ) แต่ความสนุกของที่นี่ไม่ได้อยู่ที่การเดินครับ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรผมจะเล่าให้ฟังครับ
📌 ทำความรู้จัก
ก่อนเริ่มทริป ขอเกริ่นแนะนำสถานที่ก่อนแล้วกันครับ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งอยู่ใน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีพื้นที่ประมาณ 400,000 ไร่ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีราวๆ 30 กม. สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม คือ น้ำตกนางครวญ, ถ้ำเสาหิน และถ้ำนกแอ่น เป็นต้น
และสำหรับทริปนี้ ก็คือทริปศึกษาเส้นทางธรรมชาติถ้ำนกแอ่น อช.ลำคลองงู ซึ่งปกติแล้วจะเปิดพร้อมกัน 2 ถ้ำ นั่นคือถ้ำเสาหิน และถ้ำนกแอ่น โดยแบ่งเป็นทริป 2 วัน 1 คืน (บังคับค้างคืน) เพราะไปเที่ยวได้แค่วันละ 1 ถ้ำเท่านั้น (แต่ละถ้ำไม่ได้อยู่ติดกัน ต้องนั่งรถ 4×4 ไป)
แต่เนื่องจากปีนี้เปิดให้เดินแค่ถ้ำเดียว คือ ถ้ำนกแอ่น ระยะเวลาที่ใช้ระหว่างทริปจากเดิมจะบังคับ 2 วัน 1 คืน จะเหลือแค่ครึ่งวันเท่านั้น โดย อช.ลำคลองงู จะจัดรอบให้ 1 วันมี 2 รอบ (เช้า/บ่าย) สำหรับคนจองได้รอบเช้า บ่ายนิดๆ ก็เสร็จแล้วครับ สามารถกลับบ้านได้เลย แต่ถ้าคนที่จองได้รอบบ่าย จะเสร็จประมาณ 17.00-17.30 น. ผมแนะนำให้นอนพักที่ อช. สักคืนนึงเพื่อความปลอดภัยครับ เพราะเส้นทางเข้า-ออก อช. ถนนค่อนข้างขรุขระ และค่อนข้างมืดครับ
📌 ความยากง่าย
ขอแบ่งความยากง่ายออกเป็น 2 ส่วนแล้วกันครับ คือความยากในการจอง / ความยากในการพิชิต
1.ความยากในการจอง
ถ้าคุณเคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้าง เรื่องความโหดในการโทรจอง เขาช้างเผือก สำหรับ ลำคลองงู นี้ คล้ายกันเลยครับ คือ รอบที่ผมไป ผมจองได้รอบบ่ายวันศุกร์ (ผิดหวังจากรอบวันเสาร์เช้า) แต่ก็อาจจะมองเป็นข้อดีก็ได้ เพราะพอมาวันธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ความพลุกพล่านใน อช. ถือว่าสะดวก-คล่องตัวเลยครับ ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ คนคงเยอะแน่ๆ
2. ความยากในการพิชิต
รูปแบบการพิชิต อช.ลำคลองงู ถ้าวัดกันที่ทางดิน ทางราบถือว่าเด็กน้อยมากๆ ครับ ระยะทางตั้งแต่ต้น-จบ อยู่ที่ 3-4 กม. แค่นี้เอง แต่สิ่งที่วัดใจของที่นี่คือ น้ำ ครับ ตลอดเส้นทางเราจะเจอกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายมาก ตั้งแต่แห้งสนิทร้อนเหงือซก > โดดลงน้ำ ไหลไปตามแม่น้ำแบบชิลๆ > ล่องแก่งแบบ Adventure เกาะเชือกน้ำเชี่ยวกราด > ต่อด้วยโดดน้ำจากหน้าผาสูงเกือบ 5 เมตรลงบ่อที่ลึกที่เชือก 100 เมตรก็ยังไม่สุด และปิดท้ายด้วยมวลมหาผึ้ง! ที่จะบินตอมไม่หยุด ต้องโดดน้ำเท่านั้นแล้วจะรอดครับ สรุปคือทริปนี้ เปียกแน่นอน ทำใจมาล่วงหน้าเลยนะ ฮ่าๆ
ปล. ผึ้งภายในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เป็นผึ้งป่าตัวเล็ก พี่เจ้าหน้าที่แนะนำว่าไม่ต้องไปตบ ไปตี อาศัยปัดเบาๆ ก็พอ (เพราะทำอย่างไรมันก็ไม่บินหนีไปไหนหรอกคับ เรามาบุกถิ่นมัน เราต้องทำใจ ) แต่มั่นใจได้อย่างหนึ่งคือมันจะไม่ต่อยเราครับ มันบินวนๆ ตอมๆ เราไปแบบนั้นแหละ (ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรมันรุนแรงก่อนนะ…)
📌 การเดินทาง
อช.ลำคลองงู ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 300 กม. ใช้เวลาเดินทางราวๆ 4-5 ชม. เท่านั้น แต่ถ้าใครพอจะมีเวลาสมมติว่าได้คิวเดินวันศุกร์ (ไม่ว่าเช้าหรือบ่าย) ภายในเย็นวันพฤหัสบดี ก็ให้ออกเดินทางมาพักที่ตัวเมืองกาญจนบุรีก่อน เพื่อร่นระยะทาง และวันศุกร์ค่อยออกเดินทางต่ออีกทีครับ ที่อุทยานมีห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ ความแรงของน้ำ และความสะอาดถือว่าค่อนข้างดีเลยครับ
ภายใน อช. ยังมีร้านอาหาร-ร้านค้าสวัสดิการ ขายอาหารตามสั่ง/ก๋วยเตี๋ยว/ส้มตำ คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วยนะ อาจจะเพราะคนที่มาที่ อช.ลำคลองงู ไม่ได้มีแต่นักท่องเที่ยวสายโหดอย่างเดียว ยังสามารถมาชิลๆ จอดรถกินข้าว เดินชมน้ำตกก็ได้ เพราะที่นี่ก็มี น้ำตกนางครวญ เป็นอีกจุดเช็กอินยอดนิยมของ อ.ทองผาภูมิครับ
สำหรับทริปนี้พวกเราได้คิววันศุกร์ช่วงบ่าย คืนวันพฤหัสบดีค่ำๆ พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มาพักกันก่อนที่โฮสเทลในตัวเมืองกาญจนบุรี เพื่อร่นระยะทางก่อน และเช้าวันศุกร์ก็ค่อยขับรถจากตัวเมืองกาญฯ มาที่ อ.ทองผาภูมิ > อช.ลำคลองงู อีกทีครับ
📌 การเตรียมตัว
1. โทรจองให้ติด สำคัญที่สุด!
2. เมื่อติดแล้ว เราต้องส่งเอกสารยืนยันตัวไปให้ที่อีเมลของ อช. (รอการตอบกลับ)
3. ในอีเมลเราจะต้องส่ง สำเนาบัตรประชาชน / แจ้งวันเวลาทริป / พักกี่คืน / รับอาหาร-ชูชีพไหม แจ้งความต้องการกับทาง อช. ในอีเมลได้เลยครับ ถ้าเราเป็นกลุ่มคนที่โทรติดแล้ว ทาง อช. ตอบกลับค่อนข้างไวครับ
4. ถ้าคนที่จองได้รอบบ่าย แนะนำให้นอนพักภายใน อช. 1 คืน (ต้องจองที่พักผ่าน QueQ ล่วงหน้า) แต่ถ้าจองได้ช่วงเช้า ก็ข้ามข้อนี้ไปได้เลยครับ
5. ใช้ผลตรวจ ATK จาก หมอพร้อมสเตชั่น เท่านั้น (แนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนครับ)
6. ก่อนเดินทางมา อช. แนะนำให้ปรินต์เอกสารทุกอย่างใส่กระดาษ เพราะที่ อช.สัญญาณมือถือค่อนข้างแย่ เจ้าหน้าที่จะตรวจจากกระดาษครับ (สำเนาบัตรประชาชน / หลักฐานการฉีดวัคซีน / หมอพร้อมสเตชั่น)
อุปกรณ์ที่ควรนำมาด้วย
1. เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ (หรือรองเท้าที่ระบายน้ำได้ดี)
2. ถุงกันน้ำใส่ของมีค่า (เปียกแน่นอน)
3. ไฟฉาย (ใช้ส่องในถ้ำ)
4. อุปกรณ์ซัพพอร์ตตัวเองอื่นๆ เช่น หมวก, แว่น, ถุงมือ เป็นต้น
📌 ก่อนเริ่มทริป
1. แนะนำว่า พักผ่อนมาให้เพียงพอ ทานข้าวให้เรียบร้อย ร้านค้าสวัสดิการที่ อช. มีเปิดให้บริการ แต่น่าจะไม่ทัน เพราะเสียเวลาไปกับการเดินทาง และเส้นทางเข้ามา อช.
2. นำเอกสารที่ปรินต์มา ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเรียบร้อย
3. ชำระเงินส่วนที่เหลือ (ค่าเต็นท์ / ที่นอน / อาหาร ฯลฯ) ถ้าเตรียมอะไรมาเอง ก็ไม่ต้องชำระส่วนนั้นๆ ครับ สามารถโอนชำระได้ถ้าโทรศัพท์มีเน็ตนะครับ
4. ฟังเจ้าหน้าที่อธิบายข้อมูล / แนะนำเจ้าหน้าที่นำทาง / สิ่งที่ต้องรู้เบื้องต้น ฯลฯ
5. เริ่มทริปได้เลย!
สิ่งหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้หน้างานเลยคือ จุดที่เราจะไปเดินไม่ได้อยู่ตรงที่เราลงทะเบียนครับ ถ้าเปรียบกับ อช. อื่นๆ ที่เราเคยไปมา คือเมื่อผ่านจุดบริการนักท่องเที่ยว หรือจุดรวมพลแล้ว ก็สามารถเดินขึ้นได้เลย แต่กับที่ อช.ลำคลองงู เมื่อลงทะเบียน และฟังเจ้าหน้าที่อธิบายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราต้องนั่งรถ 4×4 ไปอีกราวๆ 20 กม. เพื่อไปจุดเริ่มต้นครับ
.
.
นั่งรถ 20 กม. ครับ…
.
.
ตรงจุดนี้พี่เจ้าหน้าที่ จะอธิบายรูปแบบสภาพแวดล้อม และจุดที่ต้องเจอน้ำ ต้องกระโดด จุดถ่ายรูปสำคัญๆ และระยะทางรวมทั้งหมดครับ เส้นทางตลอดทริปนี้อยู่ที่ไป-กลับ ราวๆ 3.8 กม. เท่านั้น (รวมระยะทางที่ลอยน้ำแล้ว) และเนื่องจากปีนี้เปิดให้เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติแค่ถ้ำนกแอ่นถ้ำเดียวด้วย จึงสามารถจบทริปในครึ่งวันได้ครับ
เดินไปไม่นานเราก็มาถึง จุดเช็คอินที่ 1 จุดชมวิวผานกแอ่น แล้วครับ (ไวมาก!) ก็นะ ระยะทางรวมมันค่อนข้างสั้นเลยจะถึงเร็วก็ไม่แปลก แต่ในระยะทางที่สั้น แต่รูปแบบสภาพแวดล้อมที่เจอถือว่าหลากหลายมากเลยนะคับ ตั้งแต่ป่าทั่วไป, ป่าไผ่, ไต่เขา, เลาะหน้าผาเบาๆ ถ้ามารอบเช้าที่อากาศไม่ร้อนมาก น่าจะเอนจอยได้อยู่บ้างครับ แต่ผมมารอบบ่าย เหงื่อท่วมตั้งแต่เริ่มทริปเลย
จุดเช็คอินที่ 2 ต้นบอนยักษ์ จุดนี้ไม่ได้เป็นจุดพักแบบ Official แต่ก็เป็นที่รู้กันในหมู่นักท่องเที่ยว และพี่เจ้าหน้าที่แนะนำให้ถ่ายรูป เพราะใบบอนที่เห็นจะมีใบค่อนข้างใหญ่ จับบิดนิดๆ งอหน่อยๆ จะเหมือนกับใบที่น้อง Totoro ถือตอนฝนตกเลยครับ
หลังจากเดินต่อจากจุดต้นบอนยักษ์มาอีกสักพัก เราจะถึงปากทางเข้าถ้ำ จุดเช็คอินที่ 3 ถ้ำทะลุมิติ จุดนี้พี่เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้เราเตรียมร่างกายให้พร้อม อะไรที่ไม่อยากให้เปียกแนะนำให้ใส่ถุงกันน้ำ ผูกเชือกกางเกง-รองเท้าให้แน่นพร้อมที่จะเปียก ตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นไปเราจะเริ่มสังเกตได้ว่าผึ้งเริ่มเยอะ บินวนไปมา แต่ไม่ต้องกังวลครับ มันแค่บินวนๆ ไปงั้นแหละไม่กัดเราหรอก อาศัยปัดๆ บิดๆ ตัวหนีก็พอครับ
ตอนแรกไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเรียกจุดนี้ว่า ถ้ำทะลุมิติ จนกระทั่งลอดผ่านถ้ำเข้าไปถึงรู้ เพราะฝั่งด้านนอกที่เราผ่านมา เราจะไม่รู้เลยว่าหลังถ้ำนี้มีอะไร และระหว่างทางนั้นเป็นคอขวดต้องนั่งไถไปกับพื้น ทำให้แสงจากฝั่งตรงข้ามส่องมาไม่ถึง เมื่อลอดผ่านไปถึงรู้ว่าอีกฝั่งนึงมีโพรง-ต้นน้ำธรรมชาติอยู่ อลังการทะลุมิติสมชื่อจริงๆ ครับ
.
.
.
ถึงแล้วครับ! จุดโดดน้ำที่ 1/4 ความสูงประมาณ 2 เมตรครับ
หลังจากโดดเสร็จแล้ว เราก็จะลงไปนั่งรอที่ฝั่งข้างๆ นะครับ เมื่อโดดครบแล้ว ก็จะลอยคอไปพร้อมกัน ระยะทางลอยตรงนี้ประมาณ 200 เมตร สนุกเอาเรื่องอยู่นะ น้ำไม่ได้ลึกมากครับ ถ้ายืนก็จะอยู่ประมาณเอว-เข่า แต่กระแสน้ำค่อนข้างแรงประมาณ 2/5 ครับ
แนะนำอีกอย่างคือพวกสายจากเสื้อชูชีฟ ที่มันจะห้อยๆ แนะนำว่าให้ผูก/มัด เก็บให้เรียบร้อย เพราะตอนที่ผมลอยไปกับน้ำมีสายจากเสื้อชูชีพผมลอยไปติดก้อนหิน แล้วมันทำให้ผมหน้าคว่ำลงน้ำไปประมาณ 2-3 วินาที โชคดีว่าตอนนั้นผมยังมีสติเลยประคองตัวเงยหน้าขึ้นมาได้ เพื่อความปลอดภัยตรวจสอบเชือก-สายรัด ให้มั่นใจก่อนกระโดดนะครับ
.
.
.
จุดโดดน้ำที่ 2/4 จุดนี้น้ำไม่ค่อยลึกมาก แต่น้ำเชี่ยวมากครับ
โชคดีว่าผมยืนถึงจึงเก็บภาพหมู่มาฝากทุกคนครับ
.
.
.
จุดโดดน้ำที่ 3/4 ไม่ค่อยไกลมากจากจุดที่ 2 น้ำเชียวพอๆ กันครับ
หลังจากลอยมา 3/4 จุดแล้ว ตอนนี้เราก็เข้ามาสู่ถ้ำนกแอ่นแบบ Officially แล้วครับ ภายในนี้เราจะได้เห็นหินงอกหินย้อยอยู่บ้างตามผนังถ้ำ ภายในนี้ค่อนข้างมืดในบางจุด แนะนำว่าถ้าใครมีไฟฉายก็เปิดไว้เลยครับ ส่องๆ ตรงทางที่เดิน เพราะบางจุดจะเป็นหลุม เป็นบ่อน้ำอาจจะเดินแล้วเสียหลักได้ครับ
มาถึง จุดเช็คอินที่ 4 ถ้ำนกแอ่น จุดนี้จะเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่ใครหลายคนน่าจะคุ้นตากับมุมนี้ เพราะเป็นภาพจำของทริปลำคลองงูเลยครับ มุมนี้พี่เจ้าหน้าที่จะให้ลูกทีมไปยืนอยู่ตรงก้อนหินสูงตรงกลางปากทางออกถ้ำ และถ่ายรูปย้อนแสงเพื่อให้เห็นเป็นเงาคนกับปากทางออกถ้ำครับ
เมื่อเรามาถึงจุดนี้ แปลว่าเราเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้วครับ เราผ่านจุดโดดน้ำ/ลอยน้ำ มาแล้ว 3 จุด หลังจากนี้เราจะต้องไต่หน้าผาไปอีกราวๆ 300 เมตรขึ้นไปที่ถ้ำที่ 2 ที่เป็นจุดโดดน้ำ 5 เมตร จุดวัดใจที่สุดของทริปลำคลองงู ไปครับ เดินกันต่อได้!
หน้าผาที่เราไต่มาลักษณะทางกายภาพจะค่อนข้างคม แนะนำให้เลือกจับมุมดีๆ เพื่อไม่ได้มีแผลนะคับ ผมเองได้แผลมาแบบไม่รู้ตัวตอนจบทริปแล้ว (ไม่รู้ได้จากหน้าผา หรือจากใบไม้บาด หรือจากไหน) หรือถ้าใครกังวลจุดนี้ แนะนำใส่ถุงมือเดินป่ามาได้เลยครับเพื่อความสบายใจ
หลังจากไต่หน้าผา เดินมาเรื่อยๆ เราก็มาถึงถ้ำที่ 2 ที่เห็นจุดโดดน้ำสุดท้ายแล้วครับ ในถ้ำนี้จะมี จุดเช็คอินที่ 5 หินเอเลี่ยน อยู่ด้วย ในภาพด้านล่างนี้เราจะเห็นทั้ง 2 อย่างเลย ได้แก่หินเอเลี่ยนทางซ้ายมือ และจุดโดดน้ำที่ 4/4 ทางด้านขวามือครับ
.
.
.
จุดโดดน้ำที่ 4/4 จุดนี้สูงประมาณ 5 เมตรลึกเชือก 100 เมตรหย่อนไปไม่ถึงครับ
มองจากข้างบนดูไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ แต่มองจากข้างล่างนี่เอาเรื่องอยู่นะคับ จุดนี้พี่เจ้าหน้านี้เล่าว่าคนที่ห้อยกระเป๋า ห้องกล้อง GoPro หลุด/หาย/พัง มานักต่อนักแล้ว เพื่อความปลอดภัย แนะนำจับให้มั่นคง หรือถ้าเอาชัวร์ก็จับใส่กระเป๋ากันน้ำ แล้วปล่อยลงมาก่อนโดดก็ได้นะคับ แล้วให้เพื่อนข้างล่างที่โดดแล้วถ่ายรูปให้แทน (เหมือนที่ผมถ่ายอยู่ตอนนี้)
หลังจากโดดน้ำที่จุด 4/4 แล้ว เราจะลอยคอออกไปตามกระแสน้ำระยะทางประมาณ 400 เมตร เป็นระยะลอยที่ไกลที่สุด อยากให้ทุกคนเอนจอยกับการลอยตรงนี้ เพราะมันไกลที่สุด พอใกล้ถึงทางขึ้นจะมีพี่เจ้าหน้าที่ ยืนดักอยู่ตรงโขดหินดึงเราไปจับเชือก เพื่อเกาะๆ ไปขึ้นฝั่ง (เพราะถ้าหลุดจากตรงนี้ไป เจอกันอีกทีแม่น้ำแควเลยจ้า)
เมื่อลอยถึงฝั่งแล้ว ก็เช็กสัมภาระ/ร่างกายว่าอยู่ครบถ้วน ไม่มีบาดแผลตรงไหนใช่ไหม ตรงจุดนี้เราจะรู้แล้วว่าทริปนี้เราเสียอะไรไปบ้าง พี่ปั้น-กิม ทริปนี้สละ Mi band ไปพร้อมกัน 2 เรือนหายไปกับสายน้ำครับ หลังจากตรวจสอบความเรียบร้อยเสร็จแล้ว เราจะเดินขึ้นไปด้านบน จนพบกับทางแยกที่เราผ่านมาตอนแรก แล้วเดินย้อนกลับไปที่ลานจอดรถ ระยะทางตรงนี้ไม่ไกลมาก เดินประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น ถือเป็นการจบทริปครับ
📌 หลังจบทริป
เป็นการเดินป่า-ปีนเขาที่ได้อีกรสชาติหนึ่งเลยครับ สนุกมาก แม้จะมีร้อนๆ บ้างบางช่วง แต่โดยรวมถือว่าเย็นสบาย เพราะระยะทาง 100% ลงน้ำไปแล้ว 50-60% ครับ แต่ส่วนตัวผมความสนุกอาจจะลดลงไปราวๆ 20-30% เพราะผมถือกล้องไปด้วยตลอดทริป คิดว่าถ้าอนาคตมีโอกาสกลับไปอีกครั้ง คราวหน้าอยากไปตัวเปล่าเลย จะได้เอนจอยกับโมเมนต์ตรงหน้าได้เต็มที่ ปล. แต่แม้จะถือกล้องไปด้วยก็สนุกนะคับ มันได้สนุกอีกครั้งตอนกลับมาทำรูปได้เห็นรูปอีกครั้ง
📌 สรุปค่าใช้จ่าย
สำหรับทริปนี้ภาพรวมถือว่าประหยัดพอสมควรเลยครับ จากที่หาข้อมูลช่วงแรกก่อนเกิดทริปนี้ เราจะเห็นทัวร์ดังๆ จัดโปร 2 วัน 1 คืน / 3 วัน 2 คืน รวมค่ากิน ค่ารถเบ็ดเสร็จอยู่ที่ราวๆ 4,xxx-5,xxx บาท/คน พวกเราเลยตัดสินใจกันว่า งั้นพวกเราจัดทริปกันเองดีไหม? เพราะในกลุ่มเคยมีเพื่อนที่เคยไปที่นี่มาแล้ว มันสามารถจัดการด้วยตัวเองได้ โทรจองเอง / ติดต่อที่พักเอง / เดินทางเอง / จัดการน้ำ-อาหารเอง ซึ่งพอจัดการเองทุกอย่างมันเลยลดนู้น ประหยัดนี่ได้ เบ็ดเสร็จแล้วเฉลี่ยอยู่ที่คนละราวๆ 1,7xx-2,2xx บาท/คน (รวมหารเฉลี่ยค่าน้ำมันแล้ว) เท่านั้นเองครับ แถมจบทริปออกจาก อช. ยังไปนอนแพ กินข้าวร้านอาหาร เที่ยวคาเฟ่ต่อได้ด้วย ถ้ามากับทัวร์คือมา อช. นอนเต็นท์เสร็จแล้วกลับบ้านเลยครับ
📌 สรุปคะแนน
ระยะทาง: ★✰✰✰✰ (ใกล้มาก!)
ความยาก: ★★★✰✰ (วัดใจกับสายน้ำ / การโดดหน้าผา / มวลมหาผึ้ง)
ความงาม: ★★★★✰ (ในถ้ำอลังการมาก)
ปล.ทุกคะแนนเป็นเพียงการประเมินจากตัวผมคนเดียวนะครับ
ส่วนตัวผมคิดว่ามือใหม่เองก็สามารถมาพิชิตที่นี่ได้นะคับ ถ้าเทียบความยากลำบากกับเขาอื่นๆ แล้วที่นี่ค่อนข้างสบายเลย เดินค่อนข้างใกล้ แถมส่วนมากก็เป็นการลอยน้ำ โดดน้ำ ถ้าไม่ได้เป็นคนที่กลัวน้ำ หรือไม่มั่นใจเวลาต้องโดดน้ำ/ว่ายน้ำ ผมว่าที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่ควรมาเที่ยวมากๆ ครับ แนะนำโทรจองให้ได้เป็นพอครับ ขอปิดท้ายทริป อช.ลำคลองงู 2020 ไปด้วยภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน ณ ลานกางเต็นท์ครับ ถึงแม้ว่าประมาณ 3 ทุ่ม อช. จะปิดไฟมืดแล้ว แต่ดาวที่เห็นส่วนนึงสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลยนะคับ อันนี้ผมถ่ายภาพมาแล้วปรับเพิ่มอีกนิดหน่อย ของจริงงามยิ่งกว่าในภาพครับ แล้วผมจะไปพิชิตเขาลูกไหน ดอยใดต่อ ฝากติดตามด้วยนะครับ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า /สวัสดีครับ
รายละเอียดสถานที่
https://goo.gl/maps/KtXdbyQtuizGmKdc7
📌 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
⏰ 08.00 – 18.00 น. (เปิดทุกวัน)
🚗 มีที่จอดรถ (อช.ลำคลองงู)
📞 084 913 2381
📲 Facebook: อุทยานแห่งชาติลำคลองงู – Lam Khlong Ngu National Park
